ข้อมูลทั่วไปอำเภอไชโย
แผนที่
คำขวัญ
หมูทุบลือเลื่อง พระเครื่องเกษไชโย
ผักตบโชว์จักสาน มะกรูดหวานเชื่อมใจ
ผักตบโชว์จักสาน มะกรูดหวานเชื่อมใจ
ประวัติความเป็นมา
บ้านไชโยสันนิษฐานว่าอาจตั้งขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๑๒๘ ในคราวที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้กรีธาทัพไปรบกับทัพของพระเจ้าเชียงใหม่ในบริเวณที่เป็นอำเภอไชโยในปัจจุบัน
ซึ่งจากประวัติศาสตร์ปรากฏว่ามีเพียงชื่อ "บ้านชะไว"
และ "บ้านสระเกษ" เท่านั้น พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) สันนิษฐานว่าบ้านไชโยตั้งขึ้นหลังเสร็จสิ้นสงครามดังกล่าว
และเพราะเหตุที่ชนะทัพพระเจ้าเชียงใหม่จึงได้ชื่อว่า "บ้านไชโย"
อำเภอไชโยนี้เดิมชาวบ้านเรียกว่า อำเภอบ้านมะขาม เมื่อบ้านไชโยตั้งเป็นอำเภอเมื่อประมาณปี
พ.ศ. ๒๔๓๙ โดยทางราชการได้นำชื่อวัดและหมู่บ้านตำบลไชโยมาเป็นชื่ออำเภอ ส่วนชื่ออำเภอบ้านมะขามก็ยกเลิกไป
และแม้ที่ว่าการอำเภอจะตั้งอยู่ที่ตำบลจรเข้ร้องก็ไม่ได้ชื่อว่าอำเภอจรเข้ร้อง
กลับได้ชื่อว่า อำเภอไชโย เพราะถือว่าชี่อไชโยเป็นสิริมงคลมากกว่า
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอไชโยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอเมืองอ่างทอง ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองทางบกประมาณ
15 กิโลเมตร และทางน้ำประมาณ 14 กิโลเมตร
มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
ภูมิประเทศ
ลักษณะทั่วไปเป็นที่ราบ
มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ พื้นที่ทั่วไปจึงเหมาะแก่การ
ทำนา ทำสวน
ภูมิอากาศ
ค่อนข้างร้อน
สภาวะทางเศรษฐกิจ
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก
ได้แก่ ทำนา ทำสวน รับจ้าง
ค้าขาย
อาชีพเสริม ได้แก่
เลี้ยงสัตว์ ประมง
การปกครอง
อำเภอไชโยแบ่งการปกครองออกเป็น 9 ตำบล
51 หมู่บ้าน เทศบาลตำบล 2 แห่ง
และองค์การบริหารส่วนตำบล 3 แห่ง
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
·
วัดไชโยราชวรวิหาร
เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่
มีนามว่า วัดไชโย ครั้นเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตารามได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่
ตั้งอยู่กลางแจ้ง ใน พ.ศ.2430 มีการปฏิสังขรณ์ทำให้พระพุทธรูปได้รับแรงกระเทือนจากการก่อสร้างพระวิหารก็พังทลายลง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ทดแทน
ใช้โครงเหล็กรัดอิฐปูนไว้ภายในลดขนาดจากองค์เดิมลง ได้รับพระราชทานนาม “พระมหาพุทธพิมพ์” ขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูง 11 วา ศอก 7 นิ้ว และโปรดเกล้าฯ
ให้ยกฐานะวัดไชโยให้เป็นพระอารามหลวง พระวิหาร
มีความสูงใหญ่มากแห่งหนึ่ง รูปทรงแปลกตา ด้านนอกมีรูปทวารบาลลายรดน้ำ
เป็นรูปเสี้ยวกวาง เสาหารด้านหน้า-หลังพระวิหารมีขนาดใหญ่โตมาก ภายในพระอุโบสถ
พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นปางสมาธิ
ผนังทุกด้านมีภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเรื่องพุทธประวัติ ภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงาม
ยังอยู่ในสภาพที่ดี บานประตูแกะสลักอย่างประณีต
นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ
นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ
·
วัดสระเกษ
เดิมชื่อวัดเสาธงหิน เหตุที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดสระเกษนั้น
ตามประวัติเล่าว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จ
พระเอกาทศรถได้ทรงยกทัพออกมาตั้งรับกองทัพพม่าที่บ้านสระเกษและทรงได้รับชัยชนะ
พวกกองทัพไทยต่างยินดี และไชโยโห่ร้องรื่นเริง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรับสั่งให้พักกองทัพ ส่วนพระองค์ได้สรงน้ำชำระพระวรกาย
ล้างพระพักตร์ และสระพระเกศา ณ ที่นี้นับแต่นั้นเป็นต้นมาจึงได้ชื่อว่า“บ้านสระเกษ”หรือ“วัดสระเกษ”
การสร้างโบสถ์ของวัดสระเกษมีความสวยงามตามแบบศิลปะไทย โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง8 เมตร ยาว 22.50
เมตร ครอบโบสถ์เดิมและได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
พระราชทานอักษรพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้จารึกไว้ที่หน้าบันของโบสถ์ทั้งสองด้าน ส่วนภายในประดิษฐาน“พระพุทธเกษรังสี”และรูปหล่อหลวงพ่อโต๊ะ
พระเกจิที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่งของจังหวัดอ่างทอง
การสร้างโบสถ์ของวัดสระเกษมีความสวยงามตามแบบศิลปะไทย โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง
·
วัดโพธิ์หอมหรือวัดเฉลิมกาญจนาภิเษก
เดิมเป็นวัดร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้คือ ปูนปั้นรูปบุคคล 4 หน้า ซึ่งเรียกว่า “รูปพรหม 4 หน้า
หรือพรหมพักตร์” มีขนาดค่อนข้างใหญ่ตั้งประดับประดาอยู่บนพานปูนปั้นหน้าศาลาซึ่งสร้างบนฐานของพระอุโบสถเดิม
สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นส่วนยอดของประตูวัดหรืออุโบสถ หากว่ารูปปูนปั้นซึ่งมีจำนวน 2
ชิ้นนี้เป็นศิลปวัตถุของวัดนี้มาแต่เดิม
เป็นเรื่องที่น่าสนใจในแง่ของความสำคัญของวัดแห่งนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปูนปั้นในลักษณะนี้ที่ประดับอยู่ส่วนยอดประตูไม่พบที่อื่น ๆ
ในเขตจังหวัดอ่างทอง มีพบอยู่เป็นส่วนยอดประตูพระราชวังชั้นในของกรุงศรีอยุธยา
และประตูทางเข้าวัดมหาธาตุเชลียง สวรรคโลก
· วัดมหานาม
วัดแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระสังกัจจายน์ขนาดใหญ่ เหนือเศียรพระสังกัจจายน์ขึ้นไป บริเวณบนฉัตรสร้างเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และธาตุสาวก ภายในวัดยังมีหลวงพ่อขาว อายุร่วม ๔๐๐ ปี ที่สร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พุทธศาสนิกชน นิยมกราบไหว้ขอพร และรำกลองยาวแก้บน และในบริเวณวัด กลุ่มจักสานบ้านมหานาม ตำบลไชยภูมิ สมาชิกในกลุ่มจะช่วยกันผลิตผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา เช่น กระเป๋า แจกัน
วัดแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระสังกัจจายน์ขนาดใหญ่ เหนือเศียรพระสังกัจจายน์ขึ้นไป บริเวณบนฉัตรสร้างเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และธาตุสาวก ภายในวัดยังมีหลวงพ่อขาว อายุร่วม ๔๐๐ ปี ที่สร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พุทธศาสนิกชน นิยมกราบไหว้ขอพร และรำกลองยาวแก้บน และในบริเวณวัด กลุ่มจักสานบ้านมหานาม ตำบลไชยภูมิ สมาชิกในกลุ่มจะช่วยกันผลิตผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา เช่น กระเป๋า แจกัน
การเดินทาง
· รถยนต์
จากกรุงเทพฯสามารถเดินทางได้หลายเส้นทางคือ
เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางสายพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 32 จากกรุงเทพฯ แยกเข้าเส้นทางสายเอเชีย ผ่านอำเภอบางปะอิน - พระนครศรีอยุธยา - อำเภอบางปะหัน - อ่างทอง รวมระยะทาง 105 กิโลเมตร
เส้นทางทาง 2 ใช้เส้นทางตัดใหม่ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า - ตลิ่งชัน เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ผ่านจังหวัดนนทบุรี - ปทุมธานี - พระนครศรีอยุธยา - สุพรรณบุรี - อ่างทอง รวมระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ - ปทุมธานี ผ่านปากเกร็ด เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3111 ผ่านอำเภอบางไทร - อำเภอเสนา - พระนครศรีอยุธยา จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 3263 และต่อเข้าทางหลวงหมายเลข 309 เข้าอำเภอป่าโมก - อ่างทอง รวมระยะทาง140 กิโลเมตร หรือใช้ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด)
จากกรุงเทพฯสามารถเดินทางได้หลายเส้นทางคือ
เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางสายพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 32 จากกรุงเทพฯ แยกเข้าเส้นทางสายเอเชีย ผ่านอำเภอบางปะอิน - พระนครศรีอยุธยา - อำเภอบางปะหัน - อ่างทอง รวมระยะทาง 105 กิโลเมตร
เส้นทางทาง 2 ใช้เส้นทางตัดใหม่ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า - ตลิ่งชัน เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ผ่านจังหวัดนนทบุรี - ปทุมธานี - พระนครศรีอยุธยา - สุพรรณบุรี - อ่างทอง รวมระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ - ปทุมธานี ผ่านปากเกร็ด เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3111 ผ่านอำเภอบางไทร - อำเภอเสนา - พระนครศรีอยุธยา จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 3263 และต่อเข้าทางหลวงหมายเลข 309 เข้าอำเภอป่าโมก - อ่างทอง รวมระยะทาง
รถตู้ปรับอากาศ
มีรถตู้ปรับอากาศเส้นทาง อ่างทอง - กรุงเทพฯ ให้บริการเดินรถ เวลา05.00 - 19.00 น. ทุกวัน
จุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร
กรุงเทพฯ : สถานีขนส่งหมอชิตใหม่
รังสิต : ท่ารถบริเวณหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
อ่างทอง : สถานีขนส่งผู้โดยสายจังหวัดอ่างทอง
เส้นทางเดินรถตู้สาย 15 จากหมอชิตใหม่ - รังสิต - นวนคร - อยุธยา - ป่าโมก - อ่างทอง
เส้นทางเดินรถตู้สาย 902 จากหมอชิตใหม่ - รังสิต - นวนคร - อยุธยา - บางปะหัน - อ่างทอง
เส้นทางเดินรถตู้สาย 951 จากหมอชิตใหม่ - รังสิต - นวนคร - อยุธยา - อ่างทอง - วิเศษชัยชาญ - สุพรรณบุรี
มีรถตู้ปรับอากาศเส้นทาง อ่างทอง - กรุงเทพฯ ให้บริการเดินรถ เวลา05.00 - 19.00 น. ทุกวัน
จุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร
กรุงเทพฯ : สถานีขนส่งหมอชิตใหม่
รังสิต : ท่ารถบริเวณหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
อ่างทอง : สถานีขนส่งผู้โดยสายจังหวัดอ่างทอง
เส้นทางเดินรถตู้สาย 15 จากหมอชิตใหม่ - รังสิต - นวนคร - อยุธยา - ป่าโมก - อ่างทอง
เส้นทางเดินรถตู้สาย 902 จากหมอชิตใหม่ - รังสิต - นวนคร - อยุธยา - บางปะหัน - อ่างทอง
เส้นทางเดินรถตู้สาย 951 จากหมอชิตใหม่ - รังสิต - นวนคร - อยุธยา - อ่างทอง - วิเศษชัยชาญ - สุพรรณบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
ไม่อนุญาตให้มีความคิดเห็นใหม่